เตือนคนไทยเที่ยวญี่ปุ่น ระวังโรคหัดแฟนเพจสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ออกประกาศเตือนการแพร่ระบาดของโรคหัดในญี่ปุ่นด้วยนครโอซากาได้ออกคำเตือน เรื่อง การแพร่ระบาดของโรคหัด สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ขอประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนไทยทราบ ดังนี้

1. เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 67 ทางการญี่ปุ่นพบว่า มีผู้โดยสารสายการบิน Etihad เที่ยวบิน EY 830 จากกรุงอาบูดาบีสู่นครโอซากา เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 67 ติดเชื้อโรคหัด

2. นครโอซากายืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อโรคหัด รวม 2 คน และสื่อญี่ปุ่นรายงานยอดรวมผู้ติดเชื้อหัดในญี่ปุ่นรวม 8 คน ทั้งภูมิภาคคันไซและภูมิภาคอื่น ๆ

3. กระทรวงสาธารณสุขให้ข้อมูลโรคหัดว่า โดยทั่วไปแล้วจะเกิดอาการภายใน 14 วัน หลังจากได้รับเชื้อ

4. สถานกงสุลใหญ่ฯ แนะนำให้คนไทยสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้ขนส่งสาธารณะหรืออยู่ในที่ชุมชน รักษาสุขอนามัย พบแพทย์เพื่อขอรับคำแนะนำในการรับวัคซีน หรือรับการรักษาเมื่อมีอาการ

กระทรวงสาธารณสุข ชวนรู้จัก “โรคหัด” พร้อมแนะแนวทางป้องกัน

“โรคหัด” เกิดจากไวรัสหัด พบได้ในจมูกและลำคอของผู้ป่วย ติดต่อโดยการไอ จาม หรือพูดคุยระยะใกล้ชิด ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้ 4 วันก่อนผื่นขึ้น ไปจนถึงหลังผื่นขึ้นแล้ว 4 วัน อาการจะเริ่มด้วยมีไข้ น้ำมูกไหล มักไอแห้ง ๆ ตาแดงก่ำและแฉะ อาจมีไข้สูงประมาณ 3-4 วัน จึงเริ่มมีผื่นขึ้นลักษณะผื่นนูนแดง ติดกันเป็นปื้น ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ คือ ปอดอักเสบและสมองอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้โดยเฉพาะในเด็กเล็ก กรมควบคุมโรคจึงขอแนะนำการป้องกันโรคหัด ดังนี้

• รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล สวมใส่หน้ากากอนามัย ปิดปาก ปิดจมูก ขณะไอหรือจาม

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีไข้ออกผื่น

• ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด สำหรับเด็กเล็กควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัด 2 เข็มที่อายุ 9 เดือน และ 1 ปีครึ่ง หากเด็กยังไม่เคยได้รับวัคซีนเลยควรเข้ารับวัคซีนที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน

สำหรับผู้ป่วยหากมีอาการไข้ออกผื่น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ให้หยุดงาน หยุดเรียน หลีกเลี่ยงไปที่ที่มีคนหนาแน่น หลังจากผื่นขึ้นอย่างน้อย 4 วัน เพื่อลดการแพร่เชื้อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422